ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เช่น วิ่ง เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเข้าฟิตเนส จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแข็งตัว และแก้ปัญหาการหลั่งเร็วได้ดี โดยเฉพาะผู้ชายที่มีน้ำหนักตัวมากจะมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำมาก จึงมีผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศนั่นเอง อีกทั้งการออกกำลังกายยังช่วยให้เลือดไปเลี้ยงยังอวัยวะต่างๆ รวมทั้งอวัยวะเพศชายได้ดีขึ้น 2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่าง เช่น อาหารที่มีกากใยสูง และควรลด หรือหลีกเลี่ยงอาหารทอด น้ำตาล และไขมันจากสัตว์ รวมถึงอาหารจานด่วนที่อุดมไปด้วยแป้งและไขมัน จะช่วยให้เลือดสามารถไหลเวียนเข้าไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศชายได้อย่างเต็มที่ 3. รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือสมุนไพรบำรุงทางเพศชาย วิตามิน แร่ธาตุ และสมุนไพรบางชนิด เช่น วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี โครเมียม สังกะสี แอลอาร์จินีน ถั่งเช่า โสม กระชายดำ หรือใบแปะก๊วย ล้วนแต่มีสรรพคุณช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือด และประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่กล่าวไปข้างต้น ยังช่วยลดความอ่อนล้าของร่างกาย และคืนความหนุ่มให้กลับมารู้สึกอ่อนเยาว์อีกครั้ง 4.
เรียนคุณหมอ ดร.
ให้ทานก่อนมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ค่อยได้ผล เพราะแข็งตัวช้า แข็งไม่เต็มที่ และไม่นานเกิน 5 นาที ทำให้มีปัญหาเวลามีเพศสัมพันธ์ จะเปลี่ยนไปใช้ Cialis ได้ไหมครับ และใช้ขนาดเท่าไร (ข้อมูลสุขภาพ ปัจจุบันอายุ 65 ปี ไปตรวจสุขภาพ ทุกสามเดือน มีความดันโลหิตประมาณ 130 ระดับน้ำตาล 100-105 ไขมัน LDL 146 โคเลสเตอรอล 195 ออกกำลังกาย โดยการปั่นจักรยาน 45-60 นาที สัปดาห์ละ 3 -4 วัน ปัจจุบัน หมอจ่ายยาความดันให้กินคุมวันละเม็ดครับ)
พูดคำแปลภาษา อิ สาน, 2024