ปัญหาหนึ่งของผู้ใช้รถยนต์ นั่นคือ การเจอน้ำมันเครื่องปลอมที่อาจส่งผลต่อเครื่องยนต์และลูกสูบของรถเราได้ สำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและอยู่ในแวดวงนี้ก็อาจสบายๆ เพราะดูเป็น แต่คนสามัญธรรมดาอย่างเราๆ ที่ไม่ค่อยได้จับต้องน้ำมันเครื่องเท่าไรจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนจริงหรือปลอม เพื่อความกระจ่างเราจึงนำความรู้เกี่ยวกับการสังเกตดูน้ำมันเครื่องจริงหรือปลอมมาฝาก รับรองคราวหน้าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อไรใครก็หลอกเราได้ยากแล้ว 1. สังเกตจากภาชนะที่บรรจุ ต้องไม่เก่าคร่ำคร่ามีน้ำมันเยิ้ม หรือบุบบู้บี้ ที่สำคัญต้องไม่มีร่องรอยของการเปิดใช้งานมาแล้ว เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่องแท้ แต่หากอยู่ในสภาพดังกล่าวก็มีแนวโน้มที่น้ำมันเครื่องจะเสื่อมสภาพแล้วได้เช่นกัน ยิ่งหากมีร่องรอยการเปิดใช้งานแล้วยิ่งไว้วางใจไม่ได้ แม้ว่าคนขายจะยืนยันว่ายังใช้ได้ก็ตาม 2. ฉลากครบถ้วน บนฉลากต้องบอก ยี่ห้อ วัน/เดือน/ปีที่ผลิต ปริมาตร สถานที่ผลิต ตัวแทนจำหน่าย รายละเอียดการใช้ให้ครบถ้วน รวมทั้งต้องมีเครื่องหมายรับรองควบคุมมาตรฐานด้วย ซึ่งก็จะทำให้เรามั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า เมื่อนำมาใช้แล้วจะไม่ทำให้รถพังแน่ๆ เอาเป็นว่าสังเกตให้ดีก่อนซื้อก็แล้วกัน 3.
2. การดูปริมาณน้ำมันที่ก้านวัดให้ทำ 3 ครั้ง ไม่ใช่ดึงขึ้นมาดูครั้งเดียวจบ! เรื่องนี้ก็พบการทำผิดเสมอ หลังจากเราทำตามข้อ 1 แล้ว ให้ดึงเหล็กขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดเป็นครั้งที่ 1 จากนั้นจุ่มลงไปเอาขึ้นมาตรวจสอบเป็นครั้งที่ 2 และ เอาลงไปจุ่มแล้วดึงขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่ 3 ดูระดับน้ำมันทั้งสองครั้งหลัง เพื่อความแน่นอนว่ามีปริมาณน้ำมันเพียงพอ 3. 3. นอกจากปริมาณน้ำมันแล้วยังต้องดูความหนืดและสีของน้ำมันเครื่องด้วย เรื่องนี้ส่วนมากไม่ได้ทำ จะดูแต่ระดับความสูงอย่างเดียว และไปเปลี่ยนตามระยะเวลา แต่ในความเป็นจริง เราควรดูสีและความหนืดของน้ำมันเครื่องด้วย น้ำมันเครื่องที่มีสีเข้มแสดงว่ามีเขม่าปนเปื้อนมาก และหากมีความหนืดน้อยแปลว่าน้ำมันเสื่อมสภาพในการหล่อลื่นแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้นาน ก็จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็ว และระบายความร้อนได้ต่ำ ควรเปลี่ยนและควรมีการเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องด้วย นี่เป็นวิธีการตรวจสอบน้ำมันเครื่องที่ถูกต้องที่เราควรทำเป็นประจำทุกวันก่อนที่จะใช้รถออกไปนอกบ้าน
วิธีตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องที่ถูกต้อง | Car of Know - YouTube
การตรวจเช็คน้ำมันเครื่องรถยนต์ By TOYOTA BUZZ - YouTube
2563 Nobrand: รับส่วนลดสูงสุดถึง 50% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ. 2563 Bite: รับส่วนลดสูงสุดถึง 20% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ. 2563 Pizza napoli no kama: รับส่วนลดสูงสุดถึง 20% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ. 2563 Mezzo coffee: รับส่วนลดสูงสุดถึง 50% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ. 2563 123 Bangkok House & Coffee: รับส่วนลดสูงสุดถึง 20% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ. 2563 Ducku Cha (Tara Avenue): รับส่วนลดสูงสุดถึง 20% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ. 2563 Cha Adel Konsong Hatyai Branch: รับส่วนลดสูงสุดถึง 50% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ. 2563 Bao Bing: รับส่วนลดสูงสุดถึง 20% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ. 2563 Happy basket: รับส่วนลดสูงสุดถึง 30% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ. 2563 Shari Shari Sushi Burrito (Silom): รับส่วนลดสูงสุดถึง 20% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ. 2563 Tai He Xuan Chinese: รับส่วนลดสูงสุดถึง 20% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ, ใช้ได้ตั้งแต่: 1 มิ.
ในการใช้รถยนต์นั้น เรื่องที่ควรมีการตรวจสอบเป็นประจำมีอยู่หลายอย่าง แต่เรื่องหนึ่งที่มีการแนะนำว่าควรทำเป็นประจำทุกวันก่อนใช้รถก็คือ น้ำมันเครื่อง เนื่องจากเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อเครื่องยนต์ หากไม่มีน้ำมันเครื่อง หรือมันเหลือน้อยเกินไป เครื่องยนต์จะเกิดความร้อนและอาจจะติดขัดเสียหายได้ง่าย และอาจเกิดการรั่วซึมของน้ำมันเครื่องได้ในการใช้งาน หากเผลอไม่ตรวจสอบเครื่องยนต์พังเอาง่ายๆ จึงมีการตรวจกันเสมอ ซึ่งโดยทั่วไปทุกคนที่ใช้รถก็จะทำกันอยู่แล้ว เพราะมันก็ดูเป็นเรื่องที่ง่าย แค่เปิดฝากระโปรงและดึงเหล็กก้านที่ใช้วัดระดับน้ำมันออกมาดู แต่... ในการตรวจสอบที่ถูกต้องมันไม่ได้เรียบง่ายเช่นนั้น! หากใครคิดว่าการตรวจน้ำมันเครื่อง คือ การที่ตอนเช้าเปิดฝากระโปรงเสร็จแล้วดึงเหล็กออกมาดูระดับน้ำมันก่อนติดเครื่องเท่านั้นล่ะก็.... โปรดทราบว่านั่นเป็นวิธีที่ผิด! การตรวจสอบน้ำมันเครื่องที่ถูกต้องก็คือ... 1. 1. ต้องติดเครื่องทิ้งไว้สักครู่แล้วค่อยดึงเอาเหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องขึ้นมาดู! เรื่องนี้เจอการทำผิดเป็นประจำ เพราะหลายคนคิดว่า หากอยากรู้ระดับน้ำมัน ควรดึงออกมาตอนที่ไม่ติดเครื่อง ยิ่งเป็นตอนเช้าที่ยังไม่ได้ใช้ น้ำมันนอนนิ่งในเครื่องทำให้เห็นระดับน้ำมันจริงๆ แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เราควรมีการติดเครื่องยนต์เสียก่อนทิ้งไว้สักครู่ แล้วปิดเครื่อง จากนั้นรออีกประมาณ 3 – 5 นาที ค่อยตรวจสอบ การทำแบบนี้ทำให้เราทราบระดับของน้ำมันเครื่องในช่วงที่เครื่องทำงานจริง มีการส่งน้ำมันไปยังส่วนต่างๆ ของเครื่องแล้วว่ามันเหลืออยู่เท่าไหร่ 2.
พูดคำแปลภาษา อิ สาน, 2024